Thursday, November 27, 2014

"บรรพบุรุษ"(สตรี?) ของ Hi's : "เรื่องสั้น" ("นิยายไฮโซ") อิงชีวิตจริง โดย คุณ ....า ... ในทศวรรษ 2530 ?

 
เชื่อ ว่า หลายคน (แทบทุกคน?) คงรู้จัก "นิยาย" ชุด "โรงงานปลากระป๋อง" ของคุณ Hi's ที่ลือลั่นกันดี (เดี๋ยวนี้ มีคนรวบรวมเป็นทำเป็นไฟล์ pdf อ่านง่าย มี 4 ไฟล์ แล้วนะครับ ต้องหากันเอาเอง)

"วันละภาพ" ครั้งนี้ (แหะๆ ทำไม่ได้ทุกวันแล้วละ งานยุ่งน่ะครับ) ขอเสนอภาพที่ผมสแกนมาจาก "เรื่องสั้น" เรื่องหนึง ที่ตีพิมพ์อยู่ในนิตยสารประเภทสำหรับผู้หญิง ชื่อ Lady Style (เป็นนิตยสารที่วางแผงทั่วไป แต่เลิกไปนานแล้ว) เมือ่ประมาณปี 2530 กว่าๆ ผู้เขียน "เรื่องสั้น" นี้ ใช้นามแฝงว่า "พิจิกา" และตั้งชื่อ "เรืองสั้น" ว่า "Beauty and the Beast" ("สาวงามกับอสูร") โดยที่มีชื่อ "คอลัมภ์" ที่ "เรื่องสั้น" นี้ตีพิมพ์ว่า "นิยายไฮโซ"

ลักษณะ ของ "เรื่องสั้น" เรื่องนี้ ก็เหมือนกับ "โรงงานปลากระป๋อง" นั่นแหละครับ ลองอ่านกันดู ไม่ทราบทำใส่ Notes ของ facebook นี้แล้ว จะพออ่านกันได้ไหม ถ้าไม่ได้  โหลดไฟล์ pdf ได้จากที่นี่นะครับ
http://www.mediafire.com/?o21x9yk2buo8oje

"เรื่อง สั้น" เรื่องนี้ เป็นที่ "ฮือฮา" ของผู้อ่านสมัยนั้น ซึ่งแน่นอน คงจำกัด แวดวง แคบกว่าผู้อ่าน "โรงงานปลากระป๋อง" ทุกวันนี้แน่ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องจะ "คุ้นๆ" แล้ว ว่ากันว่า แท้จริงแล้ว ผู้เขียนคือ คุณ ...า ... ที่รู้จักกันดี (และรู้เรื่องที่เขียนถึงนี้ดี)

ผม จะหาโอกาสเล่า "บริบท" หรือ "แบ็กกราวน์" ของการปรากฏตัวของ "เรื่องสั้น" นี้ ในภายหลัง ถ้าทำได้นะครับ คือมันออกจะลำบากหน่อย ลองนึกอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าจะให้เล่า "บริบท" หรือ "แบ็กกราวน์" ของ "โรงงานปลากระป๋อง" น่ะ จะทำยังไง? ก็คงทำได้ยาก ทำนองนั้นแหละครับ

มีทั้งหมดเพียง 3 หน้านะครับ "เรื่องส้น" เรื่องนี้ (ไม่ยาวเหยียดแบบคุณ Hi's หรอก อิอิ)
Read More »

ภาพชุด รายงานข่าว นสพ. การประหารชีวิต ชิต, บุศย์, เฉลียว จำเลยคดีสวรรคต 17 กุมภาพันธ์ 2498 (4) - จบ "ซีรีส์"

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

ภาพชุด รายงานข่าว นสพ. การประหารชีวิต ชิต, บุศย์, เฉลียว จำเลยคดีสวรรคต 17 กุมภาพันธ์ 2498 (4) - จบ "ซีรีส์"

 
ผม จะลองทำตามคำแนะนำของเพื่อนใน fb ท่านหนึ่ง ที่ให้ใช้ Note โพสต์ภาพแทน จะได้โพสต์ได้ทีละหลายภาพ คิดว่า นี่คงเป็นโพสต์สุดท้ายสำหรับ "ซีรีส์" นี้แล้วล่ะครับ ยกเว้นแต่วันหลังจะมีอะไรอีก พอดีว่า งานยุ่งๆอยู่ด้วยน่ะครับ



ภาพ(ชุด)แรก นี่ผมเอาภาพที่มาจากฉบับวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่โพสต์ไปแล้ว แต่เป็นการ "ตัด" (crop) มาให้ดู ภาพแรกสุดคือภาพคุณชูเชื้อ ภรรยาคุณชิต เป็นภาพที่รู้จักกันดีพอสมควร และผมเอาไปประกอบบทความ "50 ปีการประหารชีวิต" ด้วย คำบรรยายใต้ภาพคิดว่าคงอ่านกันได้, ภาพต่อมาคือคุณบุญสม ภรรยาคุณบุศย์ มีคำบรรยายว่า "น้ำตาดิฉันตกในเสียแล้วค่ะคุณ" ถัดมาคือลูดสาวคุณชิต มีคำบรรยายว่า "ลูกสาว ชิต สิงหเสนี ออกจากโรงเรียนพบข่าวพ่อถูกประหาร" (เข้าใจว่า ลูกสาวคนนี้ คือคนที่ต้องไปสอบในวันเดียวกับที่พ่อถูกประหารชีวิตพอดี) ส่วนภาพล่างสุด เป็นภาพหามโลง ซึ่งคำบรรยาย (อยู่ใต้ภาพคุณชูเชื้อ) เขียนว่า "นักโทษกำลังหามโรงซึ่งบรรจุศพของนายเฉลียวออกมาเป็นรายแรก






ภาพ ข้างล่างนี้ เอามาจาก นสพ.ฉบับเดียวกัน แต่อยู่ที่หน้า 12 คำบรรยายใต้ภาพข้างล่าง ผมคัดมาให้ดูชัดๆ เพราะต้นฉบับอาจจะอ่านยากเนื่องจากสภาพ นสพ.เก่ามาก ถ่ายมาได้ชัดสุดเท่านี้ ภาพจริงๆประกอบด้วย 3 ภาพ คำบรรยายกำกับภาพเจ้าอาวาส เขียนผิดว่า [ภาพ] "ซ้าย" ผมแก้เป็น "ขวา"

รถของบรรดาสามนักโทษประหารและประชาชนมามุงกันฟังข่าวอยู่หน้าเรือนจำกลางบางขวางแน่นขนัด (กลาง) ญาติของนายเฉลียว ปทุมรส รอรับศพอยู่ด้วยความกระวนกระวาย ณ ร้านกาแฟหลังวัดบางแพรง (ขวา) เจ้าอาวาส เนตร ปัญญาติโพธิ กำลังชี้แจงกับนักข่าวรถ ของบรรดาสามนักโทษประหารและประชาชนมามุงกันฟังข่าวอยู่หน้าเรือนจำกลางบาง ขวางแน่นขนัด (กลาง) ญาติของนายเฉลียว ปทุมรส รอรับศพอยู่ด้วยความกระวนกระวาย ณ ร้านกาแฟหลังวัดบางแพรง (ขวา) เจ้าอาวาส เนตร ปัญญาติโพธิ กำลังชี้แจงกับนักข่าว





ภาพข้างล่างนี้ เป็น พิมพ์ไทย ฉบับวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2498






ภาพข้างล่างนี้ เป็น พิมพ์ไทย ฉบับวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2498






สุด ท้าย นี่คือ บทความ/สารคดีการเมืองเรื่อง "อวสานต์ 3 นักโทษประหาร" ทีผมพูดถึงในโพสต์ที่ 3 (โพสต์ "หลักประหาร") เอามาให้ดูเต็มๆหน้า ว่าเป็นอย่างไร จาก พิมพ์ไทย ฉบับวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2498





สำหรับ 3 โพสต์ก่อนหน้านี้ ใน "ซีรีส์" นี้ ดูได้ตาม links ข้างล่างนี้นะครับ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการประหารชีวิต เริ่มตั้งแต่ประเด็นการ "ถวายฎีกา" ที่มีอ้างกันอย่างผิดๆ ทั้งจากฝ่าย จอมพล ป และจากฝ่ายราชสำนัก ดูได้จากบทความของผม ที่ผมให้ link ไว้ต้งแต่โพสต์แรกสุด

เขียน ถึงเรื่องนี้แล้วหดหู่ วันนี้ ขอเท่านี้ก่อนนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ "ซีรีส์" นี้นะครับ ถ้าผมมีอะไรทีน่าสนใจ ค่อยพบกันใน "ซีรีส์" ใหม่

(1) http://www.facebook.com/photo.php?fbid=144340152285939&set=a.137616112958343.44289.100001298657012&ref=nf

(2) http://www.facebook.com/photo.php?fbid=144341368952484&set=a.137616112958343.44289.100001298657012&ref=nf

(3) http://www.facebook.com/photo.php?fbid=144447615608526&set=a.137616112958343.44289.100001298657012&ref=nf
Read More »

บันทึกว่าด้วยโทรเลขวิกิลีกส์ (1): พลเอกสนธิ บอกทูตสหรัฐ การเข้าเฝ้าในหลวง ในคืนรัฐประหาร 19 กันยา

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล 

บันทึกว่าด้วยโทรเลขวิกิลีกส์ (1): พลเอกสนธิ บอกทูตสหรัฐ การเข้าเฝ้าในหลวง ในคืนรัฐประหาร 19 กันยา

บันทึก ว่าด้วยโทรเลขวิกิลีกส์ (1): พลเอกสนธิ บอกทูตสหรัฐ “ในหลวงทรงผ่อนคลายและมีความสุข ทรงยิ้มตลอดเวลาการเข้าเฝ้า” ในคืนรัฐประหาร และการประเมินผลสะเทือนการเข้าเฝ้าของทูตสหรัฐ

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


คำชี้แจง: โทรเลขที่ทูตสหรัฐประจำไทยส่งรายงานยังวอชิงตัน ฉบับลงวันที่ 20 กันยายน 2549, 1 ตุลาคม 2551, 6 พฤศจิกายน 2551 และ 25 มกราคม 2553 ที่วิกิลีกส์นำออกเผยแพร่ ผ่านทาง นสพ.เดอะการ์เดี้ยน ของอังกฤษ มีเนื้อหาที่สำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่งเกียวกับการเมืองไทยหลังรัฐประหาร 19 กันยา โดยเฉพาะในประเด็นสถาบันกษัตริย์ อย่างไรก็ตาม เชนเดียวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทุกประเภท โทรเลขดังกล่าวยังต้องผ่านการวิเคราะห์ตีความและนำเข้าสู่การเรียบเรียงเป็น การนำเสนอในรูปงานเขียนหรือการพูดอภิปรายจึงจะมีความหมายสมบูรณ์โดยแท้จริง แต่ภายใต้กฎหมายที่เกียวกับสถาบันกษัตริย์ของไทย (รัฐธรรมนูญ มาตรา 8, ประมวลอาญา มาตรา 112) การจะกระทำดังกล่าวมีข้อจำกัดอย่างรุนแรง กระนั้นก็ตาม ผมเห็นว่าโทรเลขเหล่านี้ มีความสำคัญเกินกว่าที่จะปล่อยให้ตกอยู่ภายใต้ความเงียบเกือบจะโดยสิ้นเชิง อย่างที่เป็นอยู่ในสื่อสาธารณะที่เปิดเผยในขณะนี้ ในบันทึกสั้นๆข้างล่างนี้และในบันทึกฉบับอื่นที่หวังว่าจะตามมาในอนาคตอัน ใกล้ ผมจะได้พยายามนำเสนอข้อความหรือเนื้อหาในโทรเลขวิกิลีกส์ทั้ง 4 ฉบับเท่าที่จะทำได้ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายที่เป็นอยู่ เริ่มต้นด้วยโทรเลขฉบับแรกที่กล่าวถึงการเข้าเฝ้าในคืนวันรัฐประหาร
ในโทรเลขฉบับลงวันที่ 20 กันยายน 2549 ทูตสหรัฐได้รายงานการพบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะรัฐประหาร 19 กันยา เมื่อบ่ายวันที่ 20 กันยายน 2549 การสนทนาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ตามที่ทูตสหรัฐบันทึกไว้ มีเพียงสั้นๆ 5-6 บรรทัด ดังนี้


ผมได้เริ่มต้นด้วยการถามสนธิเกี่ยวกับการเข้าเฝ้าในหลวง เมื่อคืนนี้ มีใครเข้าเฝ้าบ้าง? สนธิกล่าวว่าประธานองคมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ได้นำเขา, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เรืองโรจน์ และผู้บัญชาการทหารเรือ สถิรพันธุ์ เข้าเฝ้า. สนธิเน้นว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูกเรียกเข้าไปในวัง; เขาไม่ได้เป็นฝ่ายพยายามขอเข้าเฝ้า. เขากล่าวว่าในหลวงทรงผ่อนคลายและมีความสุข ทรงยิ้มตลอดเวลาการเข้าเฝ้า เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม.

ถ้าพระอากัป กริยาของในหลวงเป็นไปตามที่สนธิบอกทูตสหรัฐจริง เราสามารถ “อ่าน” (ตีความ) อะไรได้หรือไม่? ดูเหมือน เดอะการ์เดี้ยน คิดว่าได้ ถ้าดูจากการพาดหัวและสรุปเนื้อหาโทรเลขที่ นสพ.จัดให้ (ผมได้ลบพาดหัวและสรุปเนื้อหาดังกล่าวออกจากภาพประกอบข้างบน) ทูตสหรัฐเองได้ประเมินความสำคัญของการเข้าเฝ้าค่อนข้างสูง ใน “ความเห็น” ตอนท้ายของโทรเลข เขากล่าวว่า
สนธิมีท่าทีผ่อนคลายและสงบ เห็นได้ชัดว่าการเข้าเฝ้าเป็นจุดหักเลี้ยวเมื่อคืนนี้ (โทรเลขอีกฉบับหนึ่ง [Septel = separate telegram] รายงานเรื่องท่าทีไม่ยอมแพ้จะสู้ต่อของทักษิณสูญสลายไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเขา ได้รู้ข่าวการเข้าเฝ้า)

ขณะนี้เรายังไม่มี “โทรเลขอีกฉบับหนึ่ง” ของสถานทูตสหรัฐที่เล่าเรื่องการเปลี่ยนท่าทีของทักษิณหลังทราบข่าวการเข้า เฝ้า จึงไม่อาจทราบว่าทางสถานทูตสหรัฐมีข้อมูลอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้หรือไม่ หรือเพียงแต่ใช้การสังเกตแล้วตีความเอา อย่างไรก็ตาม ใครที่ติดตามการเมืองในช่วงหลังรัฐประหารโดยใกล้ชิดอาจจะพอจำได้ว่า เคยมีการหยิบยกมาอภิปรายในที่สาธารณะเรื่องการเปลี่ยนท่าทีของทักษิณ จาก “ทำท่าจะสู้-ตอบโต้” มาเป็น “ยอมรับ” สิ่งที่เกิดขึ้น โดยมีประเด็นเชื่อมโยงกับสถาบันกษัตริย์ด้วย เพียงแต่ไมใช่เรื่องการได้เข้าเฝ้าของคณะรัฐประหาร แบบเดียวกับความเห็นของทูตสหรัฐ

กล่าวคือ ในปี 2550 นักการเมืองและนักเขียนในค่ายทักษิณบางคนได้อ้างว่า เดิมทักษิณซึ่งอยู่ที่นิวยอร์คขณะเกิดรัฐประหาร มีความคิดจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นและประกาศสู้การรัฐประหาร แต่ล้มเลิกความคิด หลังจากสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ซึ่งอยู่ที่นิวยอร์คด้วย โทรศัพท์มากรุงเทพ แล้วอ้างข้อมูลบางอย่างจากแวดวงราชสำนัก (สุรเกียรติ เป็นหลานเขยของพระราชินี) มาแจ้งกับทักษิณ ตามคำของ “ประดาบ” นักเขียนค่ายทักษิณในขณะนั้นคือ “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นคนที่แนะนำให้นายกฯทักษิณ ยอมจำนนต่อการรัฐประหาร โดยอ้างว่าได้รับข้อมูลจาก ‘ฟ้าเบื้องบน’ . . .” สุรเกียรติ์เองไม่เคยชี้แจงเรื่องนี้ แต่ได้ตอบโต้ด้วยการกล่าวหาเป็นนัยว่า “บางคนในพรรคไทยรักไทย” พูดให้เขา “ได้ยินกับหูตัวเอง” ในลักษณะที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของเขาที่ “ทำงานเพื่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์” ในขณะที่สุรเกียรติ์พูดเป็นนัย สนธิ ลิ้มทองกุล ได้ระบุออกมาตรงๆ โดยอ้างว่าสุรเกียรติ์เป็นคนบอกเขาเอง ว่าในระหว่างที่อยู่นิวยอร์คช่วงรัฐประหาร ทักษิณได้ “พูดจาจาบจ้วงดูหมิ่นพระเจ้าอยู่หัว” ต่อหน้าสุรเกียรติ์ (ดูตัวบททอดเทปการพูดของสนธิ ที่ http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000100015  ข้อความดังกล่าวอยู่ในย่อหน้าที่ 6 ของหัวข้อ “ยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2”) ทักษิณจึงฟ้องสนธิหมิ่นประมาท และศาลเพิ่งพิพากษาให้สนธิผิดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ทักษิณ เองไม่เคยพูดถึงไอเดียเรื่องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเมื่อเกิดรัฐประหารหรือ เรื่องผลกระทบของการเข้าเฝ้าของคณะรัฐประหาร แต่ในการให้สัมภาษณ์นิตยสาร Time ของสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 (ที่นี่ http://www.time.com/time/printout/0,8816,1584101,00.html ) เมื่อถูกถามว่าถ้ารัฐบาลของเขาเป็นที่นิยมของประชาชนมาก ทำไมแทบไม่มีประชาชนออกมาโวยวายประท้วงเมื่อเกิดรัฐประหารขึ้น ซึ่งทักษิณตอบว่า “มันก็เหมือนกับการรัฐประหาร 17 ครั้งก่อนหน้านี้ในประเทศไทย แรกทีเดียว ประชาชนจะช้อค แล้วพวกเขาก็เริ่มแสดงความไม่เห็นด้วย และแล้วพวกเขาก็เริ่มจะยอมรับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรัฐประหารนั้นได้รับการรับรองจากพระเจ้าอยู่หัว” (It was the same with Thailand’s 17 other coups. First, the people are shocked. Then they start to voice their concerns. And then they start to accpet it, especially after it’s endorsed by His Majesty the King.) ผมคิดว่า เราคงยังไม่ถึงกับสามารถใช้คำสัมภาษณ์นี้เป็นหลักฐานยืนยันโดยตรง ต่อรายงานของทูตสหรัฐที่ว่าทักษิณเปลี่ยนท่าทีต่อการรัฐประหาร 19 กันยา หลังการได้เข้าเฝ้าของคณะรัฐประหาร แม้ว่าการที่ทักษิณให้ความสำคัญกับประเด็น “ได้รับการรับรองจากพระพระเจ้าอยู่หัว” และยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นเหตุผลอธิบายปฏิกิริยาต่อรัฐประหารของประชาชนทั่ว ไป นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง


โปรดติดตามตอนต่อไป “บันทึกว่าด้วยโทรเลขวิกิลีกส์ (2) : กรณี พระราชินี กับ พันธมิตร
Read More »

ในโอกาสครบรอบ 64 ปี : กรณีสวรรคต 9 มิถุนายน 2489 อธิบายแบบสรุปสั้นๆ ง่ายๆที่สุด: ทำไมไม่ใช่ปรีดี-คนของปรีดี

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

 

ในโอกาสครบรอบ 64 ปี : กรณีสวรรคต 9 มิถุนายน 2489 อธิบายแบบสรุปสั้นๆ ง่ายๆที่สุด: ทำไมไม่ใช่ปรีดี-คนของปรีดี

 
หมายเหตุ: บทความสั้นๆนี้ ผมเขียนเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (2553) แต่ไม่ได้โพสต์ที่ไหน (เดิมนึกว่าจะโพสต์วันที่ 9 มิถุนา แต่เปลี่ยนใจ) เอามาลองโพสต์เป็นประเดิมใน facebook นี้ ผมยังไม่ชินกับ facebook แต่เท่าที่สังเกต ดูเหมือนการปรับแต่งตัวอักษร คงจะไมยืดหยุ่นเท่ากับเว็บบอร์ด และในแง่การโพสต์ ถ้าเป็นข้อความยาวๆ เช่นบทความ อาจจะอ่านไม่สะดวกเท่าเว็บบอร์ด อันนี้เป็นเพียงข้อสังเกตของคนเพิ่งเล่นนะครับ ผิดพลาดขออภัย

อ้อ ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่ผมพบคือ บางตัวพยัญชนะ มันออกมาแปลกๆ แก้ยังไงก็แก้ไม่ได้ (ผมพิมพ์ใน notepad ก่อน ส่วนใหญ่ ยกเว้นข้อความ "หมายเหตุ" นี้) ทำให้บางตอนอ่านยากสักหน่อย ต้องขออภัยด้วย







ในโอกาสครบรอบ 64 ปี : กรณีสวรรคต 9 มิถุนายน 2489 อธิบายแบบสรุปสั้นๆ ง่ายๆที่สุด: ทำไมไม่ใช่ปรีดี-คนของปรีดี




เวลานักวิชาการเขียนถึงกรณีสวรรคต เรามักจะเห็นคำพูดทำนอง "ลึกลับ" "อธิบายยาก" ฯลฯ

อันที่จริง ใครที่พูดแบบนี้ แสดงว่า ไม่เคยสนใจศึกษากรณีนี้เลย

จริงที่วา มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ (และแทบทุกครั้งที่ออกมา ก็ยังขายดีจนทุกวันนี้)

แต่ส่วนที่เป็น "แก่น" จริงๆของกรณีนี้ มีไม่มากเลย และ ไม่ได้ยากที่จะทำความเข้าใจด้วย

ผมขอสรุปให้เห็นง่ายๆสั้นๆ เป็นประเด็นๆ ดังนี้


(1) ในหลวงอานันท์ยิงตัวเองหรือคนอื่นยิง? - ตอบ คนอื่นยิง



ประเด็นสำคัญที่สุดอันดับแรก ของกรณีนี้คือ ในหลวงอานันท์ยิงตัวเอง (ไม่ว่าจะตั้งใจ คือ ฆ่าตัวตาย หรือ ไม่ตั้งใจ คือ "อุบัติเหตุ") หรือว่า ถูกคนอื่นยิง (ไม่ว่าจะตั้งใจ คือ "ฆาตรกรรม" หรือ ไม่ตั้งใจ คือ "อุบัติเหตุ")

ตำแหน่งของกระสุน อยู่ที่หน้าผาก เหนือคิ้วซ้าย เฉียงจากบนลงล่่าง กระสุนทะลุบริเวณใกล้ท้ายทอย

กระบอกปืนเมื่อลั่นเกือบจะประชิดผิวหนัง (มีรอยเขม่า) เรียกภาษาชาวบ้านว่า เกือบจะ "ยิงเผาขน"

ในหลวงอานันท์ เป็นคนถนัดขวา ไมใช่ถนัดซ้าย

ดังนั้น ถ้าในหลวงอานันท์ยิงตัวเอง จะต้องจับปืนในลักษณะกำสองมือ หันปากกระบอกปืนย้อนเข้าหาหน้าผากตัวเอง งอยกศอกเฉียงขึ้นไปทางหัวเตียง และน้ำหนักของแขนสองข้างทีงอศอกนี้ จะต้องเอียงไปทางซ้าย (ทางทีตัวเองไม่ถนัด) แล้วลั่นไกด้วยนิ้วโป้ง

ไม่มีใครที่ยิงตัวเองในท่านี้ ไม่ว่าจะตั้งใจฆ่าตัวเอง หรือ ยิงโดยอุบัตเหตุ (ยิ่งกรณีหลังนี้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ดังที่มีคนสมัยนั้นคนนึงกล่าวว่า ไมมีใครเอาปืนไปส่องที่หน้าผากเหนือคิ้วตัวเอง แล้วเผลอลั่นไก)

สรุปแล้ว ไม่มีทางที่ในหลวงอานันท์จะยิงตัวเอง

(ความจริงมีเหตุผลประกอบอีก แต่เป็นเหตุผลทีไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ เพราะเป็นประเด็นทางการแพทย์ที่เถียงกัน คือ ถ้าคนที่ยิงตัวเองตาย โดยเฉพาะในกรณีในหลวงอานันท์ กระสุนตัดเส้นปราสาททันที จะทำให้ไม่มีกระแสประสาทส่งมาที่กล้ามเนื้อในร่างกายอีกทันที ดังนั้น ถ้ามือและแขนอยู่ในท่าใด จะต้อง "ค้าง" อยู่ในท่านั้น แต่พระศพในหลวงอานันท์ อยู่ในท่านอนปกติ แขนแนบลำตัว 2 ข้าง ไม่มีการยกงอ เหมือนถือปืนค้างไว้ ตอนกระสุนแล่นตัดเส้นปราสาทแต่อย่างใด ศัพท์เฉพาะเรียกอาการนี้ว่า "คาเดอวาริคสปัสซั่ม"


สรุปแล้ว ในหลวงอานันท์ต้องถูกคนอื่นยิงแน่นอน

(ในการทดลองจำลองการยิง จากตำแหน่งและวิถีกระสุน ถ้าให้คนอื่น ยืนยิงจากด้านหัวเตียง คือ เดินเข้าหาในหลวงอานันท์ที่กำลังนอนอยู่ ทางด้านพระเศียร แล้วจ่อปืนเข้ากับหน้าผากด้านซ้าย แล้วลั่นไก จะได้ตำแหน่งและวิถีกระสุนตามที่เป็นจริงในพระศพ เรียกว่า "fit perfectly" คือ ตรงตามสภาพอย่างสมบูรณ์ สรุปคือ ที่เป็นไปได้มากที่สุด เป็นเช่นนั้น : มีคนอื่น เดินเข้าหาในหลวงอานันท์จากด้านพระเศียร แล้วจ่อปืนใกล้หน้าผากซ้าย แล้วลั่นไก)


(2) ปรีดี-คนของปรีดี เป็นคนอื่นที่มายิง ได้หรือไม่? - ตอบ เป็นไปไม่ได้



จากข้อ (1) เมื่อสรุปว่า คนอื่นยิง, ใครคือ คนอื่น ทีว่านี้?

คนที่ถูกกล่าวหามากที่สุด คือ ปรีดี หรือพูดให้เจาะจงลงไปคือ ลูกน้องปรีดี คือ วัชรชัย ชัยสิทธิเวช ซึ่งเป็น "บอดี้การ์ด" ของปรีดี

แต่ ปรีดี-คนของปรีดี ไม่สามารถเป็นคนอื่นที่ยิงในหลวงอานันท์ได้ ด้วยเหตุดังต่อไปนี้

ก่อนอื่น มีข้อมูลหนึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ ที่สำคัญมากๆ (และที่จริง เป็นปัจจัยทีทำให้คดีนี้ หาได้ยากเย็นในการอธิบายอย่างที่อ้างกัน) คือ

ขณะเกิดเสียงปืนที่ทำให้ในหลวงอานันท์สวรรคตนั้น มีอยู่ทางเดียว หรือประตูเดียวเท่านั้นที่เข้าไปในห้องนอนในหลวงอานันท์ได้ (ประตูอื่นๆปิดลงกลอนหมด) และขณะเกิดเสียงปืนนั้น ทางเข้าทางเดียวนี้ คือ หน้าประตูทางเข้านี้ มีมหาดเล็ก 2 คน คือ ชิต สิงหเสนีย์ และ บุศย์ ปัทมศริน นั่งเฝ้าอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น ถ้ามีคนอื่นเข้าไปยิงในหลวงอานันท์ คนนั้น จะต้องเดินผ่านมหาดเล็ก 2 คนนี้แน่นอน

แต่มหาดเล็กทั้งคู่ให้การว่า ไม่มีใครเดินเข้าไปในห้องนอนในหลวงอานันท์ขณะเกิดเสียงปืนเลย

หมายความว่า ถ้ามีคนอื่นเข้าไปยิงในหลวงอานันท์ มหาดเล็ก 2 คนนั้น จะต้องโกหกหรือ ไม่พูดความจริง แน่นอนเช่นกัน

ถ้าปรีดี-วัชรชัย คือคนอื่นที่เข้าไปยิง ก็หมายความว่า ชิต-บุศย์ พูดโกหก/ไม่พูดความจริง ให้แทน ปรีดี-วัชรชัย

แต่กรณีนี้ เป็นไปไม่ได้ ดังนี้

- ไม่มีหลักฐานเลยว่า ปรีดี-วัชรชัย สัมพันธ์ รู้จัก หรือติดต่ออะไรกับมหาดเล็กทั้งคู่เลย หลักฐานที่มีอยู่ยืนยันแต่ว่า ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ (นอกจากการที่มหาดเล็กจะรู้จักปรีดีในฐานะนายกฯ)

- ถ้ามหาดเล็กทั้งคู่ โกหก/ไม่พูดความจริง แทนให้ปรีดีจริง แสดงว่า ต้องถูก "ซื้อตัว" ในทางใดทางหนึ่ง

แต่มหาดเล็กทั้งคู่ มาจากครอบครัวที่เป็นข้ารับใช้ใกล้ชิดมาหลายชั่วคน มิหนำซ้ำ ยังเคยเลี้ยงดูในหลวงอานันท์มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ (เคยให้ทรงขี่คอเล่นเป็นม้า เป็นต้น) ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของหลักฐานเลยว่า มหาดเล็กเช่นนี้จะ ยอมให้ถูก "ซื้อตัว" เพื่อฆ่ากษัตริย์ได้เลย

ในการตัดสินคดี ศาลกล่าวในคำพิพากษาทำนองเป็นภาษิตว่า คนเรารู้จักหน้า รู้จักตัว แต่ไม่รู้จักใจ ทำนองว่า ใครจะไปรู้ได้ว่า มหาดเล็กที่ดูๆจากพื้นฐานครอบครัว และความเป็นมาในการรับใช้ใกล้ชิด ไม่น่าจะ "ขายตัว" ร่วมมือกันฆ่ากษัตริย์ได้นั้น จริงๆแล้วอาจจะทำก็ได้ เพราะไม่สามารถหยั่งรู้จิตใจได้ แต่เรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้การอ่านใจ ใช้แค่หลักฐานต่างๆ ก็พอ ไม่มีหลักฐานใดๆเลยที่แสดงให้เห็นไปทางนัน ตรงข้าม หลักฐานที่มีอยู่ ยืนยันไปในทางที่มหาดเล็กเป็นข้ารับใช้ที่จงรักภักดีอย่างยิ่ง

ยิ่งกว่านั้น ถ้าคนอื่นที่ไปยิงในหลวงอานันท์ถึงในห้องนอน นอกจากจะต้อง "ซื้อตัว" มหาดเล็กได้แล้ว ที่สำคัญ ยังจะต้องเดินเข้าไปในตัวห้องนอน ให้ถึงพระแท่นบรรทม แล้วยังจะต้องยิงในหลวงอานันท์อีก ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่ คนอื่นทีทำเช่นนั้น จะเป็น คนของปรีดี (วัชรชัย) ด้วยเหตุผลดังนี้

- ในหลวงอานันท์ตื่นนอนแล้ว รู้ตัวแล้ว (เข้าห้องน้ำมาแล้วด้วย) ดังนั้น ถ้าจู่ๆ คนอื่นที่เป็น "คนนอก" อย่างวัชรชัย เดินเข้าไปในห้องนอนของพระองค์ พระองค์จะต้องรู้สึกตัว ตกพระทัย และต้องมีพระอาการไม่ปกติแน่นอน (ซึ่งจะแสดงออกมาให้เห็นในพระอาการของพระบรมศพ ที่จะต้องไม่ใช่ดังที่เป็นอยู่)

และอย่าลืมว่า ปืนที่ยิงในหลวงอานันท์นั้น จ่อติดกับหน้าผาก

จึงเป็นไปไม่ได้ที่ในหลวงอานันท์ที่ตื่นและรู้พระองค์แล้ว จะทรงนอนนิ่งเฉยๆ ในท่านอนปกติ ปล่อยให้คนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่มีหน้าที่ต้องไปอยู่ในห้องนอนพระองค์ขณะนั้น ไปเอาปืนจ่อเข้าไปที่ใกล้หน้าผาก แล้วลั่นไก

ยิ่งกว่านั้น ตามหลักฐาน มุ้งที่กางอยู่ ได้ถูกเลิกขึ้นมาด้วย หมายความว่า ถ้าเป็นคนอื่น เช่นวัชรชัย จะต้องเปิดมุ้งขึ้นก่อน แล้วเอาปืนจ่อติดหน้าผาก ในหลวงอานันท์ยิ่งต้องรู้พระองค์ และต้องทรงมีท่าทางเปลี่ยนไปจากการนอนปกติ

ในกรณีวัชรชัย ยังมีข้อมูลอีกชิ้นหนึ่ง ที่สนับสนุนว่า เป็นไปไม่ได้ คือ วัชรชัย เป็นคนตัวเตี้ย และที่หัวเตียงมี พะนักหัวเตียงยื่นขึ้นมา ถ้าเป็นวัชรชัย เขาจะต้องเหยียดแขนข้ามพะนักหัวเตียง เอาปืนไปจ่อที่หน้าผาก ด้วยความที่เป็นคนตัวเตี้ย จะทำแบบนั้น ลำบากมาก

สรุปแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้เลยที่คนอื่นที่ยิงในหลวงอานันท์ จะเป็นปรีดี-คนของปรีดี

เหตุผลทีใช้ในการปฏิเสธความเป็นไปได้ในเรื่องปรีดี-คนของปรีดี นี้ ความจริง สามารถใช้ประยุกต์ ได้กับกรณีอื่นๆด้วย เช่น ถ้าถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็น จอมพล ป. หรือคนของ จอมพล ป., หรือเป็น "คนนอก" ไปเลย เช่น "สายลับชาวญี่่ปุ่น" (ตามที่ฝรั่งคนเขียน "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ" อ้าง)? คำตอบก็เหมือนกับกรณีปรีดี-คนของปรีดี คือ เป็นไปไม่ได้ ("สายลับชาวญี่ปุ่น" จะสามารถสัมพันธ์ ติดต่อ "ซื้อตัว" ให้มหาดเล็กพูดโกหก/ไม่พูดความจริง แทนเขาได้อย่างไร?)


ในเมื่อคนอื่นที่ยิงในหลวงอานันท์ ไมใช่ปรีดี-คนของปรีดี (หรือจอมพล ป. หรือ "สายลับชาวญี่ปุ่น" ฯลฯ) แล้ว จะเป็นใครได้ ? - ผมไม่ขอตอบ



ปล. บรรดาพวกนิยมเจ้าที่เป็นศัตรูกับปรีดี เนื่องจากตระหนักว่า หลักฐานกล่าวหาปรีดี อ่อนมาก ได้พยายามสร้างเรื่องมาปรักปรำเพิ่มเติม โดยยกกรณี "การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์" เกี่ยวกับปืนและกระสุนปืนที่ใช้ยิง (อ้างว่า ปืนที่พบ และกระสุนที่พบ ไมใช่ "ของจริง" เพื่อทำให้เกิดความคลางแคลงใจว่า เป็นการวางแผนมาซับซ้อนจากภายนอก) แต่ "หลักฐาน" ในเรื่องการพิสูจน์ปืนและกระสุนปืนดังกล่าว ความจริง อ่อนมากๆ ผู้สนใจขอให้ดู "คำโต้แย้งคำพิพากษากรณีสวรรคต" ที่เขียนโดยตุลาการเสียงข้างน้อยของศาลอุทธรณ์ คุณหลวงปริพนธ์พจนพิสุจน์ ในที่นี้ ผมไม่ยกเรื่องนี้มาอภิปราย เนื่องจากว่า เรื่องนี้ ไมจำเป็นเลยในการโต้แย้งความเป็นไปได้ ของการที่ปรีดี หรือคนของปรีดี จะเป็นคนอื่นที่เข้าไปยิง คือ เหตุผลเฉพาะที่ยกมาข้างต้น ก็เพียงพอแล้ว เพราะยังไง ถ้าเป็นคนของปรีดี ก็ยังต้องเดินผ่านมหาดเล็กเข้าไป ต้องเอาปืนไปยิงที่หน้าผาก โดยที่ในหลวงอานันท์ ไม่มีท่าทีเปลี่ยนจากการนอนปกติ ฯลฯ (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) อยุ่นั่นเอง พูดง่ายๆคือ ลำพังเรื่องที่พูดข้างต้น ก็พอแล้วที่จะปฏิเสธว่า ไมใช่คนของปรีดี แน่นอน การยกเรื่อง "การทดลองวิทยาศาสตร์" เรื่องกระสุนปืน ของพวกนิยมเจ้าศัตรูปรีดีนี้ ยังมีเป้าหมายอื่นอีก (นอกจากการปรักปรำปรีดี) แต่ผมไม่ขออภิปรายในที่นี้เช่นกัน
Read More »

เอกสารล้ำค่า !!! #บันทึกการปรับทัศนคติ


Read More »

Home Away From Home ไกลบ้าน : บ้านห่างออกไป จากที่บ้าน

Home Away From Home

ไกลบ้าน : บ้านห่างออกไป จากที่บ้าน


Pro-democracy activists from Thailand are banding together in exile rather than submitting to the military junta.

กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยจากประเทศไทย ที่ยอมถูกแบนจากเผด็จการทหาร ดีกว่าสยบสมยอมให้แก่รัฐบาลเผด็จการทหาร

- - - - - - - - -

บทความ/สัมภาษณ์ โดย JONATHAN SCHIENBERG
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2014

- - - - - - - - -

นิตยสาร Foreign Policy ลงบทสัมภาษณ์ของนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของไทยที่ลี้ภัยในต่างประเทศ เช่น

นายอรรถชัย อนันตเมฆ อดีตนักแสดงและแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของ ไทย ที่ระบุว่า ตนเลือกที่จะลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศแทนที่จะยอมเข้ารายงานตัวกับ คสช.และอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลทหาร เนื่องจาก คสช.ไม่มีความชอบธรรมและกำลังละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนไทย โดยนิตยสาร Foreign Policyอ้างรายงานของ Human Rights Watch (HRW) ว่า นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของไทยจำนวนมาก ลี้ภัยการเมืองออกจากไทย

- - - - - - - - -

และขณะที่รัฐบาลทหาร ละเมิดเสรีภาพทางการเมืองในประเทศ กลุ่มผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้รวมตัวกันสร้างกลุ่มและเครือข่ายในต่างประเทศ เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร เช่น องค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่ใช้การเคลื่อนไหวผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลทหาร

- - - - - - - - -

นอกจากนี้ นิตยสาร Foreign Policy กล่าวว่า ได้สัมภาษนายศรัณย์ ฉุยฉาย (อั้ม เนโกะ) ที่บอกว่าไม่ไปรายงานตัวและลี้ภัยออกจากไทยเพราะ คสช.จะคุมขังตนในเรือนจำซึ่งเป็นสถานที่อันตรายสำหรับผู้มีความหลากหลายทาง เพศ และเชื่อว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า ตนเองอาจกลับไทยได้ เพราะสถาบัน xxx จะสิ้นสุดลงและไทยอาจปกครองด้วยระบอบ xxxx

- - - - - - - - -

นายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การเสรีไทยฯ ที่ยืนยันว่า องค์การเสรีไทยฯ ไม่ใช่การรวมกลุ่มของคนเสื้อแดง แต่เป็นองค์การสำหรับผู้ที่สนับสนุนประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการอย่างแท้จริง โดยองค์การได้ดำเนินการกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลทหารไปแล้วหลายอย่าง เช่น การรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ และกำลังร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อใช้คัดค้านกับฉบับที่รัฐบาลทหารกำลังร่าง

- - - - - - - - -

ทั้งนี้ นายจักรภพชี้ว่า สถาบันกษัตริย์ต้องพร้อมที่จะปฏิรูป เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้ควบคู่ไปกับระบอบประชาธิปไตย โดยยกตัวอย่างสถาบันกษัตริย์ ในสหราชอาณาจักร และ ญี่ปุ่น เป็นต้น

- - - - - - - - -

นอกจากนี้ สื่อดังกล่าวระบุว่า นาย David Streckfuss นักเขียน/อาจารย์ชาวอเมริกันที่เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ฯ และมาตรา 112 ว่า บทบาทขององค์การเสรีไทยฯ มีน้อยมาก เพราะ คสช.ห้ามประชาชนวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อย่างไรก็ดี Streckfuss เชื่อว่า องค์การเสรีไทยฯ จะเป็นกลุ่มแกนนำต่อต้านรัฐบาลทหาร เนื่องจากเป็นการรวมตัวของผู้สนับสนุนประชาธิปไตย นักวิชาการ นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน

- - - - - - - - -

ข่าวจากเว็บไซต์ Foreign Policy

http://www.foreignpolicy.com/articles/2014/11/25/home_away_from_home_thailand_exiles

- - - - - - - - -

วีดีโอสัมภาษณ์
- จักรภพ เพ็ญแข
- อั้ม เนโกะ
และนักศึกษากลุ่มดาวดิน ก่อนจะไปทำกิจกรรมต้านประยุทธ์
จัดทำโดย Foreign Policy ซึ่งเผยแพร่ทาง Vimeo

ชื่อวีดีโอ : The Threat of Exile
https://vimeo.com/112832418

- - - - - - - - -

ภาพประกอบเนื้อหา จากวีดีโอของ Foreign policy

แปลความหมายจากข้อความในภาพ ได้ว่า

ในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา มีการรัฐประหารเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในประเทศไทย และเกิดการข่มเหงทางการเมือง ทำให้มีคนไทยจำนวนนับร้อยคน ต้องออกเดินทางไปพำนักยังประเทศอื่นๆ อาทิ ยุโรป สหรัฐอเมริกา กัมพูชา ลาว และประเทศอื่นๆ ในแถบอาเซียน

- - - - - - - - -

แปลโดย พิลาสินี PJ.

เรียบเรียงและแก้ไขโดย กู




Read More »

Anti WAKE UP ALL THAIS ประจำวันที่ 26-11-57 วิเคราะห์การเมืองไทยในอนาคต


 https://www.youtube.com/watch?v=UJBomJYYpWk

 

Anti WAKE UP ALL THAIS ประจำวันที่ 26-11-57 วิเคราะห์การเมืองไทยในอนาคต


https://www.mediafire.com/?xodzyl34xd1nc8c


http://www.2shared.com/audio/8Y75Jvey/Anti_WAKE_UP_ALL_THAIS__26-11-.html


http://www.4shared.com/mp3/rSQz1JJVce/Anti_WAKE_UP_ALL_THAIS__26-11-.html?

Read More »

Anti WAKE UP ALL THAIS ประจำวันที่ 19-11-57 อุดมการณ์ของเสรีไทย (2557) คืออะไร?

Read More »

Anti REDUDD ประจำวันที่ 12-11-57 ยุทธ ซื่อไข่ผู้ล้มราชวงศ์ชิง (จักรี)

Anti REDUDD ประจำวันที่ 12-11-57 ยุทธ ซื่อไข่ผู้ล้มราชวงศ์ชิง (จักรี)


https://www.mediafire.com/?vvcchco2fu44dh8


http://www.2shared.com/audio/AzuuymBf/Anti_REDUDD__12-11-57.html


http://www.4shared.com/mp3/yASyrAaxba/Anti_REDUDD__12-11-57.html?

Read More »

Anti REDUDD ประจำวันที่ 5-11-57 ยุทธศาสตร์ 3 แนวร่วมและความแตกต่างระหว่างนักยุทธศาสตร์กับนักกิจกรรม

Anti REDUDD ประจำวันที่ 5-11-57 ยุทธศาสตร์ 3 แนวร่วมและความแตกต่างระหว่างนักยุทธศาสตร์กับนักกิจกรรม


https://www.mediafire.com/?325iymom2ap086i


http://www.2shared.com/audio/9kUunxRY/Anti_REDUDD__5-11-57.html


http://www.4shared.com/mp3/sPsbJB4Rce/Anti_REDUDD__5-11-57.html?

Read More »

Anti REDUDD ประจำวันที่ 29-10-57 ความขัดแย้งในขบวนการต่อสู้ และจะไม่มีการเลือกตั้งก่อนมีรัชกาลที่ 10

*Anti REDUDD ประจำวันที่ 29-10-57 ความขัดแย้งในขบวนการต่อสู้ และจะไม่มีการเลือกตั้งก่อนมีรัชกาลที่ 10


https://www.mediafire.com/?r30kqyfowf8fxdc


http://www.2shared.com/audio/LKLzNSmj/Anti_REDUDD__29-10-57.html


http://www.4shared.com/mp3/p9dMBSp6ba/Anti_REDUDD__29-10-57.html?

Read More »

รายการขุดรากถอนโคน วันที่ 26 ต.ค 2557 ออกอากาศทางสถานีวิทยุขบวนการแดงเพื่อประชาธิปไตย

**รายการขุดรากถอนโคน วันที่ 26 ต.ค 2557 ออกอากาศทางสถานีวิทยุขบวนการแดงเพื่อประชาธิปไตย
หัวข้อ ความตายกับประชาธิปไตย โดยคุณ รักประชาธิปไตย คุณ แอนตี้


http://www.mediafire.com/download/fjvmbjejsqboye1/rec1025-194731.mp3

http://www.2shared.com/audio/ucxPrYGJ/rec1025-194731.html

Read More »

รายการวิกฤตเมืองไทย วันที่ 24 ต.ค 2557 ออกอากาศทางสถานีวิทยุขบวนการแดงเพื่อประชาธิปไตย

**รายการวิกฤตเมืองไทย วันที่ 24 ต.ค 2557 ออกอากาศทางสถานีวิทยุขบวนการแดงเพื่อประชาธิปไตย
หัวข้อ อุปสรรคเสรีภาพของประชาชน
โดย คุณ รักประชาธิปไตย คุณ สุทัษศา คุณ กระดังงาสีแดง คุณ แอนตี้ 


http://www.mediafire.com/download/t2jq31a69y5lfm7/rec1023-181507.mp3

 
http://www.2shared.com/audio/L8NDZ7n8/rec1023-181507.html

Read More »