แต่ปรากฎว่าพอผ่านไปนานๆเข้า ผมกลับมองว่า ฝ่ายที่ต้องฉลองคือฝ่ายที่ต่อต้านตระกูลภูมิพลต่างหาก เพราะการกระทำด้วยกฎหมายที่ป่าเถื่อน ทั่วโลกไม่มีใครยอมรับเช่นนี้ (ยกเว้นประเทศเผด็จการด้วยกันบางประเทศที่ ต้องการเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ ... ดูเรื่องดุลการค้าจีนที่ผมเพิ่งโพสไปเตตัสที่แล้วประกอบ) กลับเป็นเหตุให้ประเทศต่างๆทุกทวีปทั่วโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศอารยะ มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่ากะลาแลนด์ ให้สถานะผู้ลี้ภัย หรือสถานะ PR (อยู่อาศัยถาวร) กับคนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น และเมื่อคนเหล่านี้ได้สถานะแล้วก็ทำการวิจารณ์ภูมิพล และครอบครัวอย่างไม่ต้องเซ็นเซอร์อีกต่อไป (ex เด็จเจียม ก็โพสแบบไม่ต้องเซ็นเซอร์อีกต่อไป)
การที่ พวกสลิ่มคลั่งเจ้าในกะลา เช่น องค์กรเก็บขยะของเหรียญทองแดง สุยะใส
หรือ เตชะ ทับทอง
ไปบิวท์ให้คนไปประท้วงกระทรวงต่างประเทศ(ซึ่งจริงๆสลิ่มรอยัลลิสต์คุมเกือบ
ทั้งหมด)บ้าง ประท้วงรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้จัดการคนโดน 112
ในต่างประเทศให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่มีแม้แต่ประเทศเดียวตอบรับ
ก็ยิ่งตอกย้ำทำให้กะลาแลนด์กลายเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และ
กฎหมาย 112 ก็ถูกลดทอนความชอบธรรมจากทั้งในและต่างประเทศ
ในทุกๆครั้งที่การประท้วง การตามจับอันไร้สาระเหล่านี้ถูกเพิกเฉยจากชาวโลก
รวมถึง รัฐบาลทหารที่บังคับใช้กฎหมายนี้ถูกรังเกียจจากเวทีนานาชาติ
เข้าประเทศเขาไม่ได้บ้าง ถูกแถลงการณ์ตอบโต้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมว่าต่อไปนี้ ประชาชนรอยัลลิสต์ในกะลาแลนด์ ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากประชาชนเกาหลีเหนือที่โดน propaganda จนบ้ากันเกือบทั้งประเทศ คือ ได้แต่เย้วๆ ในกะลาตัวเอง ว่าประเทศนั้น ประเทศนี้ ไม่เข้าใจตัวเอง ประเทศนั้น ประเทศนี้เป็นศัตรูกับตัวเอง ประเทศนั้น ประเทศนี้ไม่เข้าใจตัวเอง ไปเรื่อยๆโดยที่ภาพลักษณ์ของพ่อง กลายเป็นเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆในสายโตชาวโลก
ขอฟันธงว่านี่เป็น ยุคของการนับถอยหลังเข้าสู่ chapter สุดท้ายของภูมิพลและตระกูลอย่างแท้จริง สถานการณ์แทบไม่ต่างกับ ช่วงปลายรัชสมัยของพระเจ้า Wilhelm II กษัตริย์คนสุดท้ายของเยอรมัน ที่สถาบันกษัตริย์ปฏิเสธจะปรับตัวให้กลายเป็นประชาธิปไตย จับคนเข้าคุกด้วยข้อหาหมิ่นเพิ่มหลายเท่าตัว ... คนที่น่าสงสารไม่ใช่คนที่ถูกไล่ออกนอกประเทศ แต่แต่คนไทย อีกส่วนหนึ่งที่มีจำนวนมากซึ่งยังสติดี แต่ต้องมาติดใน "เรือเจ๊ก ซึ่งต้องตามใจเจ๊ก" (ตามการนิยามของ นักกฎหมายขี้ข้าเผด็จการ)
สรุป ปิดท้ายสั้นๆ มานึกย้อนไป ต้องขอบคุณ คสช ที่ใช้ยาที่แรงมากๆ แรงซะจนกระทั่งคนที่เปิดฝายาตายห่าซะก่อน ยังไม่ทันได้เทใส่คนอื่นเลย
ผมว่าต่อไปนี้ ประชาชนรอยัลลิสต์ในกะลาแลนด์ ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากประชาชนเกาหลีเหนือที่โดน propaganda จนบ้ากันเกือบทั้งประเทศ คือ ได้แต่เย้วๆ ในกะลาตัวเอง ว่าประเทศนั้น ประเทศนี้ ไม่เข้าใจตัวเอง ประเทศนั้น ประเทศนี้เป็นศัตรูกับตัวเอง ประเทศนั้น ประเทศนี้ไม่เข้าใจตัวเอง ไปเรื่อยๆโดยที่ภาพลักษณ์ของพ่อง กลายเป็นเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆในสายโตชาวโลก
ขอฟันธงว่านี่เป็น ยุคของการนับถอยหลังเข้าสู่ chapter สุดท้ายของภูมิพลและตระกูลอย่างแท้จริง สถานการณ์แทบไม่ต่างกับ ช่วงปลายรัชสมัยของพระเจ้า Wilhelm II กษัตริย์คนสุดท้ายของเยอรมัน ที่สถาบันกษัตริย์ปฏิเสธจะปรับตัวให้กลายเป็นประชาธิปไตย จับคนเข้าคุกด้วยข้อหาหมิ่นเพิ่มหลายเท่าตัว ... คนที่น่าสงสารไม่ใช่คนที่ถูกไล่ออกนอกประเทศ แต่แต่คนไทย อีกส่วนหนึ่งที่มีจำนวนมากซึ่งยังสติดี แต่ต้องมาติดใน "เรือเจ๊ก ซึ่งต้องตามใจเจ๊ก" (ตามการนิยามของ นักกฎหมายขี้ข้าเผด็จการ)
สรุป ปิดท้ายสั้นๆ มานึกย้อนไป ต้องขอบคุณ คสช ที่ใช้ยาที่แรงมากๆ แรงซะจนกระทั่งคนที่เปิดฝายาตายห่าซะก่อน ยังไม่ทันได้เทใส่คนอื่นเลย
No comments:
Post a Comment